สิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือ การที่เราได้เห็นหลายคนวนทุกข์กับเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ได้อย่างประหลาด คนที่พร่ำบ่นเรื่องไหน ก็มักจะพร่ำบ่นเรื่องนั้น, การงาน, การเงิน, ครอบครัว, ความโสด, แฟน, อกหัก อาจมีระยะได้ชดเชย กล่าวคือเงียบ ห่างจากเรื่องนี้ไปสักพัก แต่ไม่นานสิ่งเหล่านั้นมันก็จะกลับมาหาคน ๆ นั้นอีกครั้ง ทำไมกันนะ? เขาช่างดูไม่มีความสุขเลย..
เมื่อเราได้เห็นคนเหล่านี้ (หรือมันอาจเป็นเราเองอยู่ก็ได้) เวลาที่เขาเหล่านี้บ่นทุกข์ ย่อมมีคนเห็นใจ และในอีกด้าน เมื่อเขาบ่นวนซ้ำ นานไปก็ย่อมมีคนเบื่อเลิกเห็นใจ แต่ก็อาจมีคนใหม่ ๆ มาเห็นใจแทนช่วยเขาเติม วัฏ หรือวงเวียนทุกข์ของคนนั้น ๆ
จึงคิดในมุมหนึ่งว่า ถ้าบางทีถ้าเขาแสร้งว่ามีความสุขไปวัน ๆ บ้าง เขาอาจะมีความสุขกว่าเจตนาทุกข์ตลอดกาลเช่นนี้ก็เป็นได้..
“เจตนาทุกข์หรือ?” ใครอยากจะทุกข์กัน มันก็จริง…
หลอกตัวเองว่ามีความสุข ดีกว่าหลอกตัวเองให้มีความทุกข์ไปวัน ๆ
แต่หากถามหรือให้ทบทวนดูว่า คนที่ชอบพร่ำบ่นแต่ความทุกข์วน ๆ นั้น ชีวิตเขาหาความสุขไม่ได้แล้วหรือ? คำตอบคงไม่ใช่ เขาหาความสุขได้… ก็นี่ยังไง จะไม่ให้บอกว่า เจตนาทุกข์ได้อย่างไร ในเมื่อเขาหาความสุขได้ แต่กลับชอบเห็นแต่ทุกข์ หรือไม่ใช้คำว่า เจตนาทุกข์ก็ได้ แต่ก็คงเป็น “พยายาม” ทุกข์ แทน และแทนที่จะ “พยายามสุข” อีกด้วย
ย้ำทวนว่า เรากำลังพูดถึงคนที่ชอบบ่นทุกข์ อวดทุกข์ อาจเป็นเราเองหรือใครก็ตาม ที่ซึ่งบทความนี้อาจควรชื่อว่า “หลอกตัวเองว่ามีความสุข ดีกว่าหลอกตัวเองให้มีความทุกข์ไปวัน ๆ” ก็ได้อยู่เหมือนกัน
สิ่งที่ “ดีกว่า” ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องดีที่สุด
เชื่อหรือไม่ว่า เวลาเราเห็นทุกข์คนอื่น หลายครั้ง เราจะมองว่า ไม่เห็นจะต้องทุกข์ขนาดนั้นเลย แต่พอเป็นทุกข์ของเราเมื่อใด คนอื่นก็อาจมองกลับได้แบบนั้นเช่นกัน และในอีกด้าน…
เวลาเราเห็นคนอื่นมีความสุข เราก็อาจแอบคิดว่า มันสุขขนาดนั้นเลยหรือ ปลอมหรือเปล่า หลอกตัวเองหรือเปล่า เดี๋ยวก็ต้องทุกข์… และใช่ คนอื่นก็มองกลับมาได้เช่นกัน เวลาเรามีความสุข
Comments